เกี่ยวกับเรา

บริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด หรือ “SEW” จดทะเบียนจัดตั้งในปี 2561 ซึ่งมีทุนจดทะเบียน75,000,000 บาท และในปี 2563 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 285,000,000 บาท และในปี 2565 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 545,000,000 บาท และในปี 2566 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้ง จำนวน 70,000,000 บาท

ทำให้ปัจจุบัน SEW มีทุนจดทะเบียนเป็น 615,000,000 บาท โดย SEW ดำเนินธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ประเภทบรรจุอาหาร ปัจจุบันจัดจำหน่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับ Modern Trade และร้านค้าส่ง

รวมถึงร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล และอื่น ๆ ซึ่งได้ใช้เยื่อชานอ้อยเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต มีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านขึ้นต่อปี

ปัจจุบันโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์เสร็จสิ้นแล้วเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2562 และเริ่มดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการผลิต SEW ยังคงต้องซื้อเยื่อซานอ้อยจากคู่ค้า เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าออกจำหน่ายสู่ตลาด ส่วนการผลิตเยื่อบริษัทได้ก่อสร้างโรงงานผลิตเยื่อขนาดเล็กเพื่อทำการวิจัยและทดลองการผลิตเยื่อชานอ้อยแล้วเสร็จในปี 2563 ต่อมาบริษัทจึงได้ก่อสร้างโรงเยื่อขนาดใหญ่ ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564

ทั้งนี้ เพื่อผลิตเยื่อชานอ้อยสำหรับเป็นวัตถุดิบให้แก่โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ของบริษัทเอง ซึ่งกระบวนการผลิตเยื่อซานอ้อยของบริษัทเป็นแบบ Organic Process ไม่ใช้สารฟอกขาว จึงทำให้เยื่อมีความสะอาดและปลอดภัยจากสารเคมี โดยกระบวนการผลิตดังกล่าว เป็นผลงานจากการวิจัยและพัฒนาของทีมนักวิจัยของบริษัท ซึ่งถือเป็นองค์ความรู้เฉพาะของบริษัท

คุณลักษณะเด่นของบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยของบริษัท
วัตถุดิบเยื่อซานอ้อย มาจากกระบวนการผลิตแบบ Organic Process ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

• ย่อยสลายในธรรมชาติได้ 100% ใน 45 วัน
• ไม่มีสารปนเปื้อนก่อมะเร็งในบรรจุภัณฑ์
• ไม่มีสารเคมี PFAS (per-and polyfluoroalkyI substances)
• ไม่ใช้คลอรีนในการฟอกสี (ECP) จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มีสีน้ำตาลธรรมขาติ
• สามารถเข้าเตาอบไมโครเวฟได้ 800 วัตต์ ที่ 5 นาที
• สามารถใส่ในช่องแข่แข็งที่อุณหภูมิ -18
• ใส่น้ำร้อนและน้ำมันได้ถึง 100
• เก็บรักษาได้นาน 5 ปี

โครงสร้างการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท BRR การประกอบธุรกิจและ ผลการดำเนินงานของบริษัท และเป็นเพียงรายเดียวในโลกที่ผลิตเยื่อด้วยกระบวนการผลิตดังกล่าว โดยในปัจจุบันผลงานวิจัยเยื่อดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนรออนุมัติสิทธิบัตร ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับลูกค้าต่างประเทศ (OEM) เพิ่มมากขึ้น โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 65 ของกำลังการผลิตรวม